เหตุการณ์สำคัญของบริษัท

ปี 2553

ก่อตั้งบริษัท ไม่ตัน จำกัด เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2553 ด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 5.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาท/หุ้น

ปี 2554

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2554 มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน เป็น 600.0 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 6.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาท/หุ้น โดยเป็นการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
โรงงานเริ่มทดสอบกระบวนการผลิตครั้งแรกด้วยกำลังการผลิต 1 สายการผลิตขวดและ 1 สายการผลิตกล่อง
เกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัย ส่งผลให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูรวม 1,180.6 ล้านบาท และมีรายได้ที่รับรู้จากเงินชดเชยของบริษัทประกันภัยส่วนแรก จำนวน 600.0 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ จากมหาอุทกภัยที่รับรู้ในปี 2554 เป็นมูลค่า 580.6 ล้านบาท โดยในปีถัดไป บริษัทฯ ได้รับเงินชดเชยทั้งหมดจากบริษัทประกันภัย ส่งผลให้ต้องรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือในปี 2555 เพิ่มอีกจำนวน 518.8 ล้านบาท (สุทธิจากรายการขาดทุนจากการตัดจำหน่ายอาคารและอุปกรณ์ในปี 2555 จำนวน 50.5 ล้านบาท)
ในเดือนพฤศจิกายน ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด”

ปี 2555

โรงงานเริ่มดำเนินการผลิตด้วยกำลังการผลิต 1 สายการผลิตขวด (มี.ค.) และ 1 สายการผลิตกล่อง (เม.ย.)
เพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 สายการผลิตขวด รวมเป็น 2 สายการผลิตขวด
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2555 มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,000.0 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาท/หุ้น โดยเป็นการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม

ปี 2556

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2556 มีมติอนุมัติการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นละ 100 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท พร้อมทั้งอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,300 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท/หุ้น
ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน เลขที่ 5175(2)/2556 ตามมาตรการส่งเสริมการ ลงทุนเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย ตามบัตรส่งเสริมการลงทุน (เดิม) เลขที่ 1496(2)/2554

ปี 2557

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 บริษัทฯ ได้ทำการเข้าจดทะเบียนและ ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ซื้อสิทธิในเครื่องหมายการค้า “ไบเล่” (หรือ Bireley's) พร้อมสูตรการผลิตจาก บริษัท ซันนี่ เฮิร์บ อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ
เข้าร่วมทุนในกิจการร่วมค้าในประเทศอินโดนีเซีย (Joint Venture)

ปี 2558

เปิดตัวเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มที่ประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การดำเนินงานของ “บริษัท พีที อิชิตัน อินโดนีเซีย” โดยวางจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม

ปี 2560

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ” บริษัท อิชิตัน เพาเวอร์ จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท (ชำระ เต็มจำนวน) โดย บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 100 เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มทุก ชนิดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ได้รับพิจารณารายชื่อ “หุ้นปันผล” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ได้รับรางวัล “Marketing Excellent Award” จากประเทศอินโดนีเซีย

ปี 2562

ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2562 (Thailand Sustainability Investment: THSI Index) จากตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย (ตลท.)
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 บริษัทฯ ได้รับรองการเข้าร่วมโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (Collective Action Against Corruption: CAC)

ปี 2563

เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ เจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจและรักสุขภาพ ได้แก่ น้ำด่าง 8.5 ph. Vitamin Water C+E, และ Vitt CC
ได้รับคัดเลือกรายชื่อหุ้นให้อยู่ในดัชนี MSCI

ปี 2564

ได้รับคัดเลือกรายชื่อหุ้นให้อยู่ในดัชนี SET 100

ปี 2565

จับมือร่วมกับบริษัท เนสท์เล่ (ประเทศไทย) ในการออกตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ "ไอศกรีมชาเขียวและฮันนี่เลมอน”
บริษัทฯ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ตันซันซู” เครื่องดื่มโซดาสไตล์เกาหลี

ปี 2566

คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท อิชิตัน เพาเวอร์ จำกัด (“บริษัทย่อย”) จำนวน 75,000,000 บาท โดยบริษัทฯ เป็นผู้เพิ่มทุนทั้งจำนวน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระหนี้คืนให้กับบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทย่อยมีทุนจดทะเบียนรวม 76,000,000 บาท
คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนคืนให้บริษัท พรีดิกทีฟ จำกัด จำนวน 5,036 หุ้น เป็นมูลค่า 92,600,000 บาท เนื่องจาก PDT มีผลการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญา

ปี 2567

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้เลิกกิจการ “บริษัท อิชิตัน เพาเวอร์ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การเลิกกิจการของบริษัทย่อยดังกล่าว สอดคล้องกับ นโยบายของบริษัทฯ ในการปิดบริษัทย่อยที่ไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจแล้ว และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ
ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ตันเพาเวอร์” เครื่องดื่มชูกำลัง
ได้รับรางวัลผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” หรือ 5 ตราสัญลักษณ์ จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดไทย (CGR) ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 8
ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ “A” ประจำ ปี 2567 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3)
ได้รับรางวัล No.1 Brand Thailand ประจำปี 2567 จากผลการสำรวจความนิยมของผู้บริโภคในประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5